หลวงพ่อพรหม ถาวโร อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องแค ท่านเกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2427 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่หมู่บ้านโก่งหนู บ้านแพรก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบทที่วัดปากคลองยางในปี พ.ศ. 2447 ได้รับฉายาว่า ถาวโร ก่อนอุปสมบทได้เรียนวิชาอาคมต่างๆจากท่านอาจารย์พ่วง ซึ่งเป็นฆราวาส เมื่ออุปสมบทแล้วอาจารย์พ่วงได้พาไปฝากหลวงพ่อดำ เพื่อเรียนอสุภกรรมฐานตามวิธีขอมโบราณและวิปัสสนากรรมฐานอยู่ 4 ปี ในปีที่ 5 อาจารย์พ่วงได้พาไปฝากกับอาจารย์ปู่วอน ฆราวาสที่บ้านวังแดง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อเรียนวิชาอีกหลายแขนง เรียนพระธรรมวินัยเพิ่มเติมขณะเมื่อมาจำพรรษาที่วัดเขียนลาย หลวงพ่อเป็นผู้ที่มีศีลวัตรปฏิบัติที่งดงาม ได้ออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆจนถึงภูเขาช่องแค เกิดฝนตกหนัก ชาวบ้านจึงบอกให้หลวงพ่อขึ้นไปพักหลบฝนที่ในถ้ำคืนแรกได้มีเทพยดามานิมิตแนะแนวทางปฏิบัติธรรมชั้นสูงให้ ท่านจึงขออยู่ที่นี่เพื่อตอบแทนคุณ จากนั้นท่านได้เดินทางกลับไปบอกขายที่นาอันเป็นมรดกของท่าน แล้วนำเงินมาซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัด และเป็นเจ้าอาวาสวัดช่องแค (พ.ศ. 2460 - 2514) และท่านได้ลาออกจากเจ้าอาวาสเมื่อปี พ.ศ. 2514 รวมระยะเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสได้ 54 ปี เพื่อให้พระปลัดแบงค์ ธมมวโร เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2518 ตรงกับรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมสิริอายุได้ 90 ปี 70 พรรษา แต่สังขารของท่านก็ไม่เน่าเปื่อย เส้นเกศา เล็บ และหนวดเครางอกออกมาได้
อภินิหาร 'หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค่
สยบอสรพิร้าย “งูจงอาง” ช่วยชีวิตเด็ก
“เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน ฉบับนี้ขอนำ “นาทีระทึกขวัญ” ขณะเด็กน้อยผู้หนึ่งต้อง “ผจญภัย”กับอสรพิษร้ายที่เรียกกันว่า “งูจงอาง” กลางหลุมลึกทั้งที่ “เด็กน้อย” ผู้นี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยแต่กลับ “รอด” จากถูกอสรพิษร้ายฉกกัดได้ดุจปาฎิหารย์ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น “ผู้พ่อ” ที่มาพบเห็นจึงเชื่ออย่างสนิทใจเป็นเพราะ “พุทธบารมี” และอำนาจแห่ง “พุทธานุภาพ” ของ “เหรียญคุณพระ” ที่เด็กชายคนนั้นแขวนอยู่บนคอแสดงปาฏิหารย์เป็นที่น่าอัศจรรย์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 ที่ จังหวัดตรัง และเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ “คุณสาธร ตีระกานนท์” ซึ่งเป็นนักสะสมพระเครื่องอีกผู้หนึ่งได้เผยว่า “ในปี 2517 ได้ปลูกบ้านหลังใหม่ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับบ้านหลังเก่า ซึ่งก่อนปลูกบ้านก็จะต้องมีพิธี “ยกเสาเอก” ตามแบบอย่างโบราณจึงขุดหลุม“สี่เหลี่ยม” กว้างเมตรครึ่งและลึกเมตรเศษเพื่อทำพิธียกเสาเอก หลังจากขุดหลุมเสร็จจึงไปหาซื้อข้าวของสำหรับจัดพิธีในตัวตลาด แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็น “ลูกชาย” อายุขวบเศษที่ปล่อยให้นอนอยู่ยังบ้านหลังเดิมเพียงลำพัง จึงเดินตามหารอบๆบ้านพร้อมทั้งตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบ จึงเดินไปดูตรงที่ขุดหลุมไว้เพื่อยกเสาเอกก็เห็นลูกชายตัวน้อยตกลงไปในหลุม ที่มี “งูจงอางตัวเขื่อง” ยาวประ มาณเมตรเศษตัวดำเมี่ยมนอนขดตัวอยู่ตรงหน้า “ลูกชาย” ที่ขณะนั้นมีทีท่าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดจนไม่กล้าส่งเสียงใดๆเลย “คุณสาธร” จึงรีบยื่นมือคว้าเอาตัวลูกชายขึ้นจากหลุมอย่างระมัดระวังพร้อมถาม “โดนงูกัดหรือเปล่าลูก” ลูกชายสั่นหัวแทนคำตอบเนื่องจากขณะนั้นพูดอะไรไม่ออก “คุณสาธร” จึงสำรวจเนื้อตัวลูกชายเมื่อไม่พบ “รอยถูกงูกัด” จึงโล่งใจแต่ก็เกิดอาการฉงนไฉนลูกชายจึงไม่ถูก “งูฉกกัด” ทั้งที่อยู่ในหลุมแคบๆด้วยกันชั่วครู่จึงมองไปที่คอลูกชายก็พบว่ามี “เหรียญหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค” รุ่น “แจกทาน” ที่ตนเองเป็นผู้ให้ลูกชายแขวนไว้จึงยกมือขึ้นสาธุเพราะรู้ทันทีว่าด้วยบารมี อันศักดิ์สิทธิ์ของ“หลวงพ่อพรหม” ที่ช่วยชีวิตลูกชายไว้เนื่องจากสัญชาติ “อสรพิษร้าย” อย่างงูจงอางหากอยู่ใกล้คนเป็นต้องฉกกัดทันทีดังนั้นเมื่อ “ลูกชาย” รอดจากถูกงูฉกกัดเช่นนี้จึงนับเป็น “ปาฏิหาริย์” ที่ “หลวงพ่อพรหม” บันดาลขึ้นโดยแท้ต่อมาหลังจากทำพิธี “ยกเสาเอก” เสร็จเรียบร้อยโดยจับ “งูจงอาง” ปล่อยเข้าป่าไป “คุณสาธร” ก็พาลูกชายพร้อมครอบครัวไปทำบุญกับ “หลวงพ่อพรหม” ที่วัดช่องแคพร้อมกราบขอบพระคุณที่ท่านช่วยลูกชายทั้งที่ท่านได้ละสังขารไป นานแล้ว