เหรียญที่นำมาให้บูชานี้ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ ๑๐๕ ปี พรรษาที่ ๘๓ รุ่นแรกเป็นเหรียญ "เจริญลาภ" หรือ “หมุนเงินหมุนทอง” แล้วแต่จะเรียกครับ ออกวัดป่าหนองหล่ม ปี ๔๒ เป็นเหรียญหนา ประคำ ๑๘ เม็ด
เหรียญเนื้อทองแดง ขอแยกบล็อกเป็น ๓ บล็อกดังนี้
๑. บล็อกหนา ประคำ 19 เม็ด (นิยมสุด)
๒. บล็อกหนา ประคำ 18 เม็ด (รองลงมา)
๓. บล็อกบาง ประคำ 18 เม็ด
หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ ๑๐๕ ปี พรรษาที่ ๘๓ ท่านเพิ่งออกจากป่ามาจำพรรษาที่วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว เป็นครั้งแรก หลังจากที่ท่านถือธุดงควัตร ในป่ามากกว่า ๗๐ ปี จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน ท่านเป็นศิษย์ของครูบาอาจารย์ที่เก่งๆ หลายท่าน อาทิ พระอาจารย์มั่น, ล.ป. ศุข วัดปากคลอง, ล.ป.ดำ เหลนของสมเด็จลุน, ล.ป.สี ฉันทสิริ, พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, ล.ป.แหวน , ล.ป.บุคคโล, ล.พ.จาด วัดบางกระเบา, ล.พ. เดิม วัดหนองโพธิ์, ล.พ.สอน วัดเสิงสาร, ที่สำคัญคือหลวงปู่ใหญ่หรือพระครูเทพโลกอุดร และครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่พบโดยบังเอิญตามป่าดงดิบ ตามถ้ำต่างๆ มากมายหลายท่านในยุคสมัยก่อน ท่านเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าๆ สมัยก่อนทั่วประเทศไทย กระทั่ง เขมร ลาว พม่าและมาเลเซีย
สมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ (มีชีวิตอยู่ในสมัยกรุงธนบุรีถึงรัชกาลที่ ๒) ผู้เป็นพระปรมาจารย์ของหลวงปู่หมุน โดยที่ท่านเรียนวิชากับหลวงปู่คำ เหลนของ สมเด็จลุน ในขณะที่ หลวงปู่คำ อายุ ๗๐ ปี หลวงปู่หมุน อายุ ๔๐ กว่า
พระอาจารย์มั่น ผู้ที่หลวงปู่หมุนเคยไปเรียนพระกรรมฐาน และยังได้ของที่ระลึกจากพระอาจารย์มั่น ๒ สิ่ง คือ ๑.ใบลานเขียน คาถาว่า เย สัมมา เหตุปภวา ฯลฯ ๒.แบงค์ ร.๔ เขียนอักขระ โดยที่พระอาจารย์มั่นกล่าวกับ หลวงปู่หมุนว่า “ท่านเก่งอยู่แล้วไม่จำเป็นที่ต้องมาหาเราอีก”
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ผู้ที่เป็นสหธรรมมิกกับ หลวงปู่หมุน ได้ไปเรียนวิชากับ หลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว และ หลวงพ่อเงิน วัดมะปรางค์เหลือง
หลวงปู่ศุข เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่หมุน อีกท่านหนึ่งที่หลวงปู่หมุนเคยได้ไปศึกษาวิทยาคม
เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) หลวงปู่หมุนสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค ได้ที่สำนักวัดสุทัศน์โดยความอุปการะของท่านทั้งยังเผยเคล็ดลับการทำพระกริ่งที่ถูกต้องสมบูรณ์ให้แก่หลวงปู่หมุนอีกด้วย
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่ในอดีตหลวงปู่หมุนได้เคยไปเรียน เรื่องธาตุทั้ง ๔ และวิชาอาคมต่างๆ
หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เป็นสหธรรมิกรุ่นน้อง ของหลวงปู่หมุน (เคยพบกันในป่า) ท่านเคยสั่งพระสมุห์ภาสน์ว่า สืบต่อไปภายหน้าให้ตามหาหลวงพ่อหมุนให้พบเพราะท่านเก่งมาก
เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิต ช่วงวัยชรา ท่านยังแข็งแรง สามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว อาทิ เดินสรงน้ำในห้องน้ำรวมของวัด, เดินจงกรมในเวลาเช้ามืด, ใช้เครื่องมือเปิดกระป๋องนมข้น เพื่อชงไมโล ถวายครูบาอาจารย์และฉันเอง อีกแม้กระทั่งล้างแก้วล้างถ้วยชามเอง, เก็บกวาดกุฏิเองโดยห้ามไม่ให้คนอื่นมาทำให้ท่าน, ให้ศีลให้พรญาติโยมที่มาทำบุญกับท่าน ด้วยเสียงดังฟังชัดๆ ใช้ไม้เท่าตีศรีษะ เสกเป่าคาถาให้ญาติโยมอย่างดี, ในเวลาที่ศิษย์ไปนวดให้ท่าน ท่านก็จะเล่าประสบการณ์ในช่วงอยู่ในป่าได้อย่างดี มีสติแม่นยำไม่หลงลืม ไม่มีอาการเหม่อลอยเหมือนคนชราทั่วไป ทั้งนี้เพราะท่านปฏิบัติกรรมฐานมาตลอดชีวิต พวกเราที่เป็นพุทธศาสนิกชนสามารถเรียกท่านได้อย่างเต็มปากว่า “พระปรมาจารเอกอุ ในยุคสมัยโลกาภิวัฒน์” คนไทยสามารถก้มลงหมอบกราบด้วยศรีษะและสิบนิ้วลงบนฝ่าเทาอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของท่านได้อย่างสนิทใจ
พิธีเททองหล่อพระกริ่งเจริญลาภ และพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่นนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๒ มีปรากฏการณ์ที่อัศจรรย์เกินที่จะบรรยายได้ อาทิ มีฝนตกพร่ำตลอดในช่วงก่อนทำพิธีแต่เมื่อถึงเวลาปราฏกว่ามีแดดจ้าออกมาอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่บริเวณรอบวัดมีฝนตกอย่างหนัก และเมื่อหลวงปู่ท่านนั่งสมาธิ บริกรรมภาวนาเข้าฌานสมาบัติ เพื่ออธิฐานจิตเททองหล่อพระนั้นปรากฏว่า เสียงอื้ออึงของผู้คนกว่าพันคนและเสียงสัตว์นานาชนิดที่อยู่บริเวณรอบๆ ซึ่งเป็นป่าเงียบสนิทราวกับว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลยทั้งหลวงปู่ท่านได้อัญเชิญบารมีพระรัตนตรัย ในการอธิษฐานจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านได้เชิญครูบาอาจารย์ต่างๆ มารับรู้ในการทำพิธีในครั้งนี้ด้วย อาทิ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์, หลวงปู่เทพโลกอุดร, ล.ป. ศุข วัดปากคลอง, ล.พ. จาด วัดบางกระเบา, ล.พ. เดิม, ล.พ. เอีย, ล.พ. ปุคคโล, ล.ป.ดำ และครูบาอาจารย์ต่างๆ หลายท่าน เพื่อเป็นสักขีพยานและประสิทธิประสาทวัตถุมงคลชุดนี้ให้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์แบบตามตำราโบราณสืบไป
ในขณะที่เททองหล่อองค์พระอยู่นั้นหลวงปู่ได้เจริญธาตุวัฏฐานสมาบัติทำกิริยาอาการเอื้อมมือคว้าอากาศมาบริกรรมปลุกเสกที่ปากและทำการจับเหวี่ยงเข้าเบ้าดินไทยที่เทพระกริ่งและพระบูชาทุกองค์ทุกเบ้าจนครบวิชาอาคมแบบนี้ยังเป็นที่สงสัย และปลาบปลื้มปิติของทุกคนที่ได้พบเห็น แต่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันหนักแน่นในความขลังศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นสุดยอดของวิชาตามตำราพิชัยสงครามที่ในปัจจุบัน ยังไม่มีภิกษุที่สามารถกระทำได้
ขั้นตอนพิธีกรรมต่างๆ ในการสร้างวัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ
วันที่ ๑ ตุลาคม ๔๒ ถึง ๓๐ ตุลาคม ๔๒ หลวงปู่หมุน ปลุกเสกมวลสาร
วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๔๒ ทำพิธีพุทธาภิเษกเททองหล่อ พระกริ่ง พระบูชา โดยมีพระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศน์ ฯ จุดเทียนชัย หลวงปู่หมุนเป็นประธานพิธี
วันที่ ๑ พฤศจิกายน ถึง ๑๙ พฤศจิกายน ๔๒ วัตถุมงคลต่างๆ ถวายให้ หลวงปู่หมุน ปลุกเสกเดี่ยวที่กุฏิ ยกเว้นพระกริ่ง และพระบูชาที่นายช่างต้องนำไปตกแต่งให้เรียบร้อย
วันที่ ๒๐,๒๑ พฤศจิกายน ๔๒ วัตถุมงคลทั้งหมดมาทำพิธีพุทธาภิเษก วันเพ็ญเดือนสิบสองที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์ ตามตำราสมเจพระสังฆราชแพ
วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ถึง ๒ ธันวาคม ๔๒ นำวัตถุมงคลทั้งหมดไปถวายให้ท่านเสกเดี่ยวอีกครั้ง
วันที่ ๔-๖ ธันวาคม ๔๒ นำพระกริ่งและวัตถุมงคลมาแช่น้ำพระพุทธมนต์ศักด์สิทธิ์ ผสมน้ำมนต์กลางหาว ทำพิธีพุทธาภิเษก ที่วัดซับลำใย จ.ลพบุรี โดยมีหลวงปู่หมุนเป็นประธานในพิธี
รายการวัตถุมงคล รุ่น เจริญลาภ มีดังนี้
๑.พระบูชา ๕ นิ้ว เชียงแสนจกบาตร จำนวนสร้าง ๕๙ องค์
๒.พระกริ่งเจริญลาภ จำนวนสร้าง ๙๙๙ องค์
๓.ล็อกเก็ตรูปเหมือนสี่เหลี่ยม จำนวนสร้าง ๙๙๙ องค์
๔.แหวนปลอกมีดสร้างจากชนวนพระกริ่ง จำนวนสร้าง ๕๙๙ วง
๕.กำไลนาค หนัก ๒.๕ บาท จำนวนสร้าง ๙ วง
๖.กำไลเงิน หนัก ๑ บาท จำนวนสร้าง ๕๙๙ วง
๗.รูปเหมือนหลังเตารีด เนื้อชนวนพระกริ่ง จำนวนสร้าง ๙๙๙ องค์
พิธีเททองหล่อพระกริ่งพระบูชาแบบเข้าเบ้าดินไทยโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ (เข้าพิธีรุ่นเดียวกับกริ่งเจริญลาภ) มีวัตถุมงคลดังนี้
๑.รูปหล่อลอยองค์เหลืองรมดำ
๒.พระผงรูปเหมือน นั่งตั่ง (ฝังตะกรุดทองคำ-เงิน ,ไม่ฝังตะกรุด)
๓.พระผงปิดตา
๔.เหรียญหมุนเงิน หมุนทอง
๔.๑ เนื้อทองคำ ตามจอง
๔.๒ เนื้อเงิน จำนวนสร้าง ๕๐๐ เหรียญ
๔.๓ เนื้อทองแดง จำนวนสร้าง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ
๕.เหรียญทองแดง หมุนเงิน หมุนทอง แบบมีตะกรุด
๖.ถุงโภคทรัพย์เจริญลาภ ๙๙๙ ล้าน จำนวนสร้าง ๓,๐๐๐ ถุง
๗.พระสมเด็จ
๘.เหรียญอาร์ม หลังนารายณ์ทรงครุฑ เนื้อทองแดง จำนวนสร้าง ๑๐,๐๐๐ เหรียญ
วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ…” ของๆ ฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคหมุนลาภ ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายๆเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไป ด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระ ที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน ”
หลวงปู่หมุน ท่านกำเนิดเมื่อ พศ. ๒๔๓๗ – ๒๕๔๖ อายุยืนถึง ๑๐๙ ปี พระเครื่องของท่านออกมา ช่วงบั้นปลายชีวิต ในปี พศ. ๒๕๔๒ – ๒๕๔๕ จึงดูเหมือนเป็นพระเครื่องใหม่ อายุพระไม่เกิน ๑๐ ปี ความนิยมในท้องตลาดพระเครื่อง ยังมีไม่มาก มีเฉพาะกลุ่มลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธา แต่ก็มีแนวโน้มกลุ่มลูกศิษย์มากขึ้น จากปากต่อปากของผู้บูชาพระเครื่องหลวงปู่ ที่พบประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
สาเหตุที่ท่านอนุญาติให้สร้างพระเครื่อง ในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น เพราะยุคแรก ๆ นั้น ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่ ในการออกธุดงค์ไปในป่าดงดิบ และธุดงค์ไปแดนพุทธภูมิ ในต่างประเทศ หลายสิบๆ ปี จึงไม่ได้ทำวัตถุมงคลออกมาเพื่อให้ชาวบ้านบูชาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ รวมถึงหารายได้มาสร้างวัดซ่อมอุโบสถ บำรุงเสนาสนะให้ดำรงคงอยู่ สืบสานวัฒนธรรมประเพณี อันดีงามในแผ่นดินสยาม วัดวาอาราม เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้คนรุ่นหลัง ได้กระทำแต่ความดี ละความชั่ว และขัดเกลาจิตใจคนรุ่นใหม่ ให้อ่อนโยน มีเมตตาธรรม สร้างสรรค์สังคม หลีกเลี่ยงพฤติกรรม ให้สังคมเสื่อม หากไม่มีวัด ก็ไม่มีพระ หากไม่มีพระ คนรุ่นใหม่ก็ย้าย ศาสนาไปเป็นคริสต์จักรกันหมด แล้วพุทธศาสนาก็จางหายไปตามกาลเวลา..
หลวงปู่หมุน ท่านไม่ยึดติดลาภยศสมณศักดิ์ ท่านเป็นพระสงฆ์ สายพระป่าที่เคร่งกรรมฐานอย่างแท้จริง ท่านใดที่มองหา พุทธคุณทางด้านอิทธิปาฎิหาริย์, แคล้วคลาดอายุยืน, โชคลาภเสริมดวง และเมตตาบารมี ที่สามารถสัมผัสพุทธคุณในพระเครื่องได้ เป็นความเชื้อส่วนบุคคล จนกว่าท่านจะได้..
คำอาราธนา บูชาหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
ท่องนะโม ๓ จบ แล้วภาวนาว่า
หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล มะ อะ อุ
หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อุ อะ มะ